ข้อดีข้อเสียของ 4G

4g

 

ข้อดีกับ iphone ipad

1.เล่นเน็ตเร็วขึ้น 4-5 เท่า ความเร็วของ 3G ในไทยตอนนี้โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3-8 Mbps แต่ถ้าเราใช้งานในพื้นที่ผู้คนหนาแน่น เความเร็วก็จะลดลงมา แต่ความเร็วของ 4G LTE นั้นเร็วกว่าเดิมกว่า 4-5 เท่า รวมถึงไม่ต้องแชร์ความเร็วกับคนที่ใช้ 3G ทำให้ทางโล่งสะดวก นอกจากความเร็วในการโหลดแล้ว ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล (Ping) ยังเร็วกว่าเดิมกว่าเท่าตัว นั่นหมายความว่าเวลาเราแชทกับเพื่อนบน Line หรือ Facebook , อ่านข้อความใน Twitter จะได้ข้อมูลกลับมาก่อนคนอื่นๆ กว่าเท่าตัว

2.ไม่เปลืองแบตอย่างที่คิด หลายคนเข้าใจว่าเน็ต 4G LTE เร็วขึ้น 4-5 เท่าก็ต้องเปลืองแบตกว่าระบบ 3G 4-5 เท่าด้วยเช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การเล่นเน็ตในความเร็ว 4G ใช้แบตมากกว่า 3G เพียงนิดเดียว แทบจะไม่ต่างกันเลย ข้อมูลจากแอปเปิลยังบอกอีกด้วยว่า iPhone สามารถใช้ 3G ได้เฉลี่ย 8 ชั่วโมง แต่ใช้ 4G LTE ได้นานถึง 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่สำคัญมีผลการทดสอบว่า iPad Air ใช้เป็น 4G/LTE Hotspot ได้นานถึง 24 ชั่วโมง นานที่สุดในบรรดาแท็บเล็ตทุกยี่ห้ออีกด้วย

3.ดูรายการสด คมชัดไม่มีกระตุก ทุกวันนี้เราสามารถดูรายการทีวี, ละคร, หนัง, มิวสิควิดีโอ ได้ผ่านทางโทรศัพท์และแท็บเล็ตอยู่แล้ว เพียงแต่บางครั้งเราไม่อยากกดดูเพราะคุณภาพไม่เท่ากับการดูบนเน็ต Wifi จริงๆ ซึ่งผลจากการทดสอบพบว่าเน็ต 4G LTE ทำความเร็วได้เฉลี่ยเกิน 20 Mbps ซึ่งเร็วกว่า Wifi ตามบ้านของหลายคนซะอีก ทำให้ข้อจำกัดในการดูทีวีผ่านเน็ตหมดไป เราสามารถดูรายการโปรดที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ สะดวกมากและคมชัดไม่มีสะดุด

4.แชร์เน็ตใช้ทำงานได้จริง ไม่ต้องพึ่ง Air Card สำหรับคนทำงาน การพกพา Air Card ไปคู่กับโน้ตบุ้ค หรือการเสียตังค์สมัคร Wifi เพื่อใช้เน็ตเร็วๆ ให้ทำงานได้สะดวกนั้น ไม่จำเป็นอีกแล้วเมื่อมี 4G LTE เพราะเราสามารถแชร์เน็ตผ่านมือถือและแท็บเล็ตได้เลย รวมถึงความเร็วยังสูงกว่า Wifi อีกด้วย

ข้อเสีย

1.นักออกแบบ 4G ได้สร้าง “เสาอากาศอัจริยะ” เป็นตัวส่งสัญญาณให้ 4G ส่งข้อมูลได้ไวอย่างไม่มีใครทัดเทียม ทว่ามีงานวิจัยออกมาแสดงถึงผลเสียว่าการแผ่สัญญาณเหล่านี้เป็นอันตรายต่อบุคคล อาจทำให้เกิดมะเร็งได้